Title :: I know nothing else but love
Author :: zime_ii
Paring :: GD x VI
-Chapter 6-
เช้าอีกวันแล้วสินะ ...... หลังจากวันนั้น นี่ก็ผ่านมาร่วมอาทิตย์แล้วครับ ที่ผมอยู่แบบนี้ อยู่ในคราบของซึงฮยอน จะพูดไปผมถามตัวเองอยู่หลายต่อหลายครั้ง ว่าผมแค่สงสารผู้ชายที่กำลังนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่บนเตียงตอนนี้แค่นั้นรึป่าว มันคงจะใช่ใช่มั้ยครับ ผมแค่สงสารเค้า .
....หลายวันที่ผ่านมา ผมแทบจะทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรประจำวัน ตื่นมาตั้งแต่เช้า แล้วนั่งมองผู้ชายคนนี้หลับสนิท เวลาเค้าหลับน่ารักกว่าเวลาตื่นอีกนะครับ ดูปากชมพูๆ ที่กำลังขยับเหมือนเด็กนั้นสิครับ เค้าดูมีความสุขจังเลย
.....แปลกจังที่ผมก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย มันก็คงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีละมั้งครับ ผมอยากให้เค้ามีความสุขแบบนี้ไปอีกสักพัก ถือว่าชดเชยในสิ่งที่น้องฝาแฝดของผมทำเอาไว้ละกัน เมื่อถึงเวลาผมก็คงจะต้องไปจากเค้าในฐานะซึงฮยอน เค้าจะต้องไม่มีวันรู้ว่าคนที่อยู่กับเค้าทุกวันนี้คืออีซึงริ หวังว่าอะไรทุกอย่างคงจะผ่านไปด้วยดีใช่มั้ยครับ....
....อ่ะ สายแล้วนี่นา.....
ร่างบางที่นั่งมองจียงที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงเพลิน เหลือบไปเห็นนาฬิกา จนเห็นว่ามันสายซะแล้ว
...ใกล้ถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว....
ซึงริลุกออกจากเตียง พลางเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ต้องสะดุดที่กระเป๋าตัวเองซะก่อน เมื่อเห็นไดอารี่สีดำโผล่ออกมาจากกระเป๋านิดนึง ซึงริหย่อนตัวลงที่กระเป๋า แล้วหยิบไดอารี่เล็มนั้นขึ้นมา ซึงริหันไปมองจียงที่นอนหลับอยู่บนเตียง เมื่อเห็นว่าจียงยังหลับสนิทอยู่ มือบางจึงค่อยๆ เปิดไดอารี่ออก
พาสปอร์ตของเค้าที่ถูกคั่นหน้าไว้ และข้อความที่ซึงฮยอนเขียนเอาไว้ปรากฏสู่สายตา
“ อีซึงริ “
ร่างบางอ่านชื่อของตัวเองที่อยู่ในพาสปอร์ตในใจ ก่อนถอนหายใจยาว
...... แค่สักพักเดียว ขอแค่ให้เค้าได้มีความสุข แล้วซึงริจะจากไปทันที .......
ร่างบางปิดไดอารี่ลง แล้วมองหาที่ซ่อน ก่อนจะปีนเอาไดอารี่และพาสปอร์ตที่อยู่ในนั้นขึ้นไปวางไว้บนหลังตู้สูง
..... หวังว่าคงไม่มีใครมาเจอหรอกนะ ....
“ ซึงฮยอนอา..... ”
ร่างเล็กรีบกระโดดลงมาทันที ก่อนจะหันไปขานรับคนที่กำลังบิดขี้เกียจตื่นนอน แล้วรีบเดินไปทางเตียงนอน
“ ตื่นแล้วหรอฮะ ”
“ไหนมาให้พี่กอดสิ”
“ พี่จียง ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย ”
“ แน่ะ ลืมอะไรไปรึเปล่า เมื่อคืนพี่ขอซึงฮยอนไว้ว่าอะไร ”
“ อ่ออ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย โทษทีฮะ ก็มันไม่ชินนี่นา ”
“ ไม่ชินอะไร แต่ก่อนเราก็พูดกับพี่อย่างนี้ ”
“ ก็นั่นแหละฮะ ก็พอเปลี่ยนไปพูดว่าฉัน มันก็ไม่ชินกับคำว่าผมแล้วนี่นา ”
ซึงรินั่งลงบนเตียงพลางนอนลง จียงจึงขยับเข้ามากอดน้องไว้
“ แบบนี้ต้องถูกลงโทษรู้มั้ย ”
“ พี่จียงกล้าลงโทษผมหรอ ” ซึงริตะแคงตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอดนั้น พลางพูดเบาๆ
“ กล้าสิ ไม่เคยเห็นเวลาพี่โกรธรึไง ”
“ พี่จียงแค่เก๊กต่างหากล่ะ ” ซึงริพูดพลางขยับสายเสื้อกล้ามที่ไหล่ของจียงเล่น
“ หืมม รู้ได้ยังไงว่าพี่เก๊ก พี่โกรธจริงๆนะ ” จียงขยับตัวออกแล้วบีบจมูกคนตัวเล็กเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“ อ๊ะ เจ็บอ่ะ ” ซึงริร้องเสียงหลง ก่อนรีบเอามือบางปัดมือใหญ่ออก แล้วจับจมูกตัวเองเป็นการใหญ่
“ โอ๊ะพี่ขอโทษ เจ็บมากมั้ย ไหนให้พี่ดูสิ ”
ร่างบางเอามือออกจากจมูก พลางยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่จียง
“ ฮิฮิ เห็นมั้ยละ แค่นี้พี่จียงยังเป็นห่วงผมจะแย่เลย ฮ่าๆๆ ไหนละฮะ กล้าลงโทษผม ”
“ หนอย ตัวแสบ อยากได้บทลงโทษจริงๆ ใช่มั้ย ” จียงพลิกซึงรินอนหงายทันที ก่อนจะขึ้นคล่อมคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว
“ ก็เอาสิฮะ ”
ทั้งสองคนหัวเราะร่าอย่างมีความสุข หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
“ พี่จียงมีความสุขใช่มั้ยฮะ ”
“ ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ หืม ”
“ ก็....ผมแค่อยากรู้ ”
“ อืม พี่มีความสุขมากเลย แต่พี่คงจะมีความสุขมากกว่านี้ ถ้าซึงฮยอนอยู่กับพี่ตลอดไป ”
ร่างบางหุบยิ้มลงทันที
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอ่ะ ”
“ ป่าวหรอกฮะ ผมแค่ดีใจที่พี่มีความสุข ” ซึงริคลี่ยิ้มอีกครั้ง ก่อนเอื้อมมือทั้งสองคล้องคอคนที่คล่อมเค้าอยู่
“ แน่ะ กอดพี่แบบนี้ ต้องการอะไรกันแน่ ” จียงยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วก้มลงไปเอาจมูกชนกับจมูกน้อง
“ ก็ต้องการให้พี่มีความสุข แค่นั้นแหละฮะ ”
“ แค่นั้นเองหรอ .....ไหน จูบพี่หน่อยสิ ”
จียงมองตาซึงริด้วยความรัก สายตาที่รวบรวมทุกความรู้สึกที่เค้าต้องการให้คนตรงหน้ารับรู้
“ งื้ออ ไม่เอาอ่ะพี่จียง ผมหิวข้าวแล้วไปหาไรกินกันดีกว่านะ ”
“ ไม่เอาอ่ะ ”
“ พี่จียง ”
“ นะครับ... ”
ซึงริจ้องตาจียงกลับ พลางคิดในใจว่า..... ฉันแพ้สายตาคู่นี้ทุกทีเลย ให้ตายสิ ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวขึ้นจูบคนข้างบนตามที่เค้าต้องการ
ริมฝีปากหนารับจูบอย่างดูดดื่ม ...
“ อื้อออ ” ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนที่ทั้งคู่จูบกัน จนร่างบางต้องร้องขัดขึ้น ก่อนที่อารมณ์รักจะถูกปลุกขึ้นมา แก้มเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ....ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ซึงริควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้
“ พอเถอะฮะ ไปกินข้าวกันเถอะ ผมอยากทำโจ๊กทะเลให้พี่จียงกิน คราวที่แล้ว พี่จียงรู้มั้ยว่ามันกินไม่ได้เลย ” เมื่อเห็นท่าทีคนตรงหน้าไม่มีทางที่จะหยุด ยังพยายามที่จะก้มเอาจูบจากเค้าต่อ ซึงริจึงต้องหาทางรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ รู้ได้ไงว่าพี่เป็นคนทำ ” และก็ได้ผล จียงสนใจเรื่องที่ซึงริเพิ่งพูดถึงทันที
“ ป้าซูยอนบอกไงฮะ มันไม่อร่อยเลย เดี๋ยววันนี้ผมจะทำให้ดู พี่จียงจะได้รู้จักว่าโจ๊กทะเลเป็นยังไง ”
“ แน่ใจนะว่าทำอร่อยกว่าพี่ทำ ซึงฮยอนเคยบอกนี่ว่า ...ทำกับข้าวไม่เป็น ”
....เออ จริงด้วย ซึงฮยอนมันทำกับข้าวไม่เป็นนี่นา.... ซึงริเงียบลงสักพัก นึกหาเหตุผลที่เหมาะสม
“ ก็เพื่องานนี้โดยเฉพาะ เดี๋ยวผมจะโชว์พี่ให้ดู ”
“ แน่ใจนะ ”
“ อื้ออ ”
“ ก็ลองดู... ”
#
#
#
#
“ พี่จียงอ่า อย่าสิ กอดผมไว้แบบนี้ แล้วจะได้กินมั้ยเนี่ยโจ๊ก วันนี้อ่ะ ” ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของคนที่กอดเค้าอยู่ข้างหลัง
.....อุ่นจัง...... ร่างบางที่ขัดขืนเค้าแต่ก็คิดตรงกันข้ามในใจ ซึงริที่กำลังคิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ คือการให้ความสุขกับควอนจียง แต่เค้าเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า สิ่งที่เค้าทำน่ะ มันเพื่อตัวเองต่างหาก ......เพราะคนเรามีความเห็นแก่ตัวเป็นรากฐานของจิตใจ ....ตัวซึงริเองต่างหากที่เผลอหวั่นไหวไปกับจียง แต่เค้าก็ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าสิ่งที่อยู่ในใจของเค้ามันคือความรักไม่ใช่ความสงสาร ....เพราะซึงริเริ่มตกหลุมรักควอนจียงเข้าอย่างจังซะแล้ว
“ หอมที่สุด ”
“ ผมหรอ... ”
“ ใครว่า โจ๊กต่างหาก ”
“ พี่จียง!! ” มือบางฟาดเข้าที่มือหนาที่กอดเค้าที่เอว เรียกให้คนข้างหลังหัวเราะร่วนไปการใหญ่ จียงไม่เคยคิดเลยว่า .....เค้าจะมีความสุขได้ขนาดนี้ ซึงฮยอนเปลี่ยนเป็นคนละคนจากแต่ก่อน ตอนนี้ซึงฮยอนทำให้เค้ามีความสุข หัวใจพองโตจนแทบอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ ......แต่เค้าก็ไม่ได้รู้ว่า ซึงฮยอนเป็นคนละคนกับแต่ก่อนจริงๆ
-ติ๊ง หน่อง-
“ ไอ้จียงเปิดประตูหน่อย ” เสียงกดออดเรียกที่หน้าประตูดังขึ้น จียงหันไปตามเสียงเรียก
“ ไอ้ท้อปมาอย่างนั้นหรอ อ้อ พี่ฝากมันซื้อของนี่นา ” ซึงริเลิกคิ้วขึ้นทันที เมื่อได้ยินจากจียงว่าคนที่เพิ่งมาถึงคือ พี่เทมโป้ของเค้า จียงคลายอ้อมกอดจากน้อง แล้วตรงไปเปิดประตู ในขณะที่ประตูเปิดออก หมาหน้าย่นก็วิ่งหาเจ้าของทันที
“ กาโฮ อ๊า~~ คิดถึงจังเลย ”
“ คิดถึงห่าไรมึง นี่ถ้ากูไม่ไปรับชาร์ลีที่ศูนย์ หมามึงคงถูกทิ้งแล้วล่ะ ” ท้อปพูดพลางยื่นถุงกระดาษลายสวยที่บรรจุของที่จียงฝากซื้อให้เพื่อน
“ อ่ะนี่ ของที่มึงฝากซื้อ ”
“ โอ๊ะใจว่ะ ”
“ ซึงฮยอนน ไอ้ท้อปมา ออกมาคุยกับมันสิ อ๊ะ กาโฮมานี่ๆ อย่าไปกัดซึงฮยอนเค้านะ “ จียงตะโกนเรียกซึงริที่ยังคงอยู่ในครัวอยู่ พลางเรียกหมาของตัวเองมาหา เพราะเค้ารู้ดีว่า ซึงฮยอนไม่ถูกกับกาโฮ
“ ท่าทางน้องกับมึงจะไปกันได้สวยนะ ”
“ ก็แหงดิ กูยังคิดว่ากูฝันไปเลย มึงเชื่อปะ น้องเป็นของกูแล้ว เห้อ ถึงเวลากูคงปล่อยเค้าไปไม่ได้แน่ๆ เลยว่ะ ” จียงกระซิบกระซาบกับเพื่อนรัก ท้อปเบิกตากว้างเล็กน้อย เมื่อฟังคำพูดของเพื่อน
ซึงฮยอนมันชอบผู้หญิงหนิ แล้วมันจะเป็นไปได้หรอที่....
ท้อปหยุดคิดแค่นั้น เมื่อซึงริเดินเข้ามาถึงส่วนของห้องนั่งเล่น ร่างบางคำนับให้เค้าเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบนโซฟาข้างๆ จียง ในจังหวะนั้น ซึงริสบตากับเค้าพอดี ซึ่งซึงริก็หลบตาเค้าทันที
“ เป็นไงบ้างซึงฮยอน นายสบายใจดีใช่มั้ย ” ท้อปพูดกึ่งแขวะร่างบาง ทำให้เค้าเจอสายตาไม่พอใจจากจียงทันที ซึงรินั่งเงียบสนิทข้างๆ จียงพลางมองไปทางลูกหมาที่จียงกำลังเล่นอยู่แทน ไม่ใช่เพราะอะไร ถึงแม้ว่าเค้าจะแน่ใจว่าพี่เทมโป้คิดว่าเค้าคือซึงฮยอน แต่เค้าก็ยังกลัวว่าพี่เทมโป้จะจำเค้าได้อยู่ดี ....เวลานี้ เค้าไม่ต้องต้องการให้ใครรู้ทั้งนั้น ว่าเค้าคือใคร ยิ่งถ้าพี่เทมโป้รู้แล้วล่ะก็ คนที่เค้าต้องการให้มีความสุขก็ต้องรู้ไปด้วย แล้วทุกอย่างก็จะพังหมด
....ถึงพี่จียงจะต้องเสียใจ ก็ต้องไม่ใช่เพราะรู้ว่าตัวเองถูกหลอกซ้ำสองแน่ๆ....
“ ฮะ ผมสบายดี ”
“ อ๊ะ กาโฮ ไม่ได้ๆ อย่าไปทางนั้น ” ซึงริตอบเบาๆ ในขณะที่จียงกำลังวุ่นวายอยู่กับกาโฮที่กำลังพยายามตรงเข้ามาหาซึงริ
“ กาโฮอ่า ” ซึงริยิ้มแล้วเรียกชื่อหมาหน้าย่นเบาๆ ทำให้อีกสองคนที่นั่งอยู่ด้วยตีสีหน้าแปลกใจทันที
“ ปกติ ซึงฮยอนไม่ชอบเล่นกับลูกหมานิ ยิ่งกับกาโฮ.... ” ท้อปถามออกมาด้วยความสงสัย เมื่อเห็นร่างบางเริ่มลูบหัวกาโฮ ซึงกาโฮเองก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนเหมือนแต่ก่อนเลย
“ นั่นสิ ซึงฮยอนไม่ชอบกาโฮนี่ ” ตามด้วยจียงที่เอ่ยขึ้นบ้าง ร่างบางหุบยิ้มแล้วเงียบไปขณะหนึ่ง ก่อนที่จะเงยหน้าแล้วยิ้มออกมา
“ ผมก็อยากจะเปลี่ยนตัวเองดู ลูกหมามันก็ไม่ได้น่าเกลียดขนาดนั้นสักหน่อย ใช่มั้ยอ่ะครับ ”
........ มีบางอย่างแปลกไป นี่จียงทำให้ซึงฮยอนเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรอ ....... ท้อปคิดในใจพลางหรี่ตามองมองซึงฮยอนอย่างจับผิด
“ เออ ไอ้ท้อป มึงว่ามึงจะมาเอาหนังสือเนื้อแร้พใช่มั้ย มึงเข้าไปเอาเลยอ่ะ อยู่ในห้องอ่ะ ”
จียงเมื่อเห็นท้อปมองน้องด้วยสีหน้าแปลกๆ จึงเรียกเพื่อนทันที เค้าเองคิดว่า ท้อปคงไม่พอใจที่เค้าทำแบบนี้ เพราะท้อปเองก็เพิ่งจะห้ามเค้าไปเหมือนหลายวันก่อน
“ อ่อ เออ ใช่ อยู่ในห้องมึงใช่มั้ย ”
“ อือ ” ท้อปลุกขึ้นโดยที่ความรู้สึกเดิมยังไม่จางหาย ท้อปรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
......จียงมันจะคิดแบบเดียวกับเรามั้ยนะ..... ร่างสูงคิดในใจพลางเดินเข้าห้องไป ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเค้าไม่รู้นี่นาว่าสมุดเนื้อแร้พที่ว่ามันอยู่ตรงไหน
“ จียงง ~~ อยู่ตรงไหนวะ ” ร่างสูงตะโกนออกไป
“ อยู่บนหลังตู้เสื้อผ้าตู้เล็กในห้องอ่ะ ” จียงตะโกนตอบ พลางเล่นกับกาโฮไปด้วย ซึงริที่ได้ยินคำตอบไหนใจหายวูบทันที แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้
......พี่ท้อปไม่ใช่คนจุ้นจ้าน ตู้ก็คนละใบ ยังไงซะพี่เค้าคงไม่เจอหรอกน่า.....
ท้อปเดินเข้าไปในส่วนของห้องเก็บเสื้อผ้าหน้าห้องน้ำ ควอนจียงเป็นคนที่ค่อนข้างจะชอบการแต่งตัว เลยมีทั้งตู้และก็ชั้นเสื้อผ้าอยู่เต็มไปหมด เค้าค่อยๆ ไล่มองที่ตู้แต่ละใบ
“ อ้ะ อยู่นั่นไง เอ๋ ทำไมจียงมันเอาไปอยู่สูงจังวะ ” ร่างสูงพึมพำกับตัวเอง แล้วปีนหยิบสมุดโน้ตเล่มดำลงมา
มือหนาเปิดออกผ่านๆ ตาอย่างคราวๆ แต่ทว่า .....
“ พาสปอร์ต ?? อยู่ในสมุดเนื้อแร้พเนี่ยนะ ไอ้นี่มันบ้าป่าววะ “
ท้อปเปิดพาสปอร์ตออกดู ........... อีซึงริ! ...........
#
#
#
#
TOP’s story
ผมบอกลาจียงกับเด็กคนนั้นทันที ก่อนจะรีบขอตัวออกมา ตอนนี้ในหัวของผมสับสนไปหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมนั่งอยู่ในรถของตัวเอง พลางมองที่สมุดหนาเล่มดำที่ผมติดมือมาด้วย ทุกคนครับ ผมรู้สึกช็อค .....
อย่าบอกผมนะครับว่า เด็กคนนั้นคืออีซึงริ แล้วซึงริมาอยู่กับจียงได้ยังไง ถ้าอย่างนั้น แล้วเรื่องที่จียงบอกล่ะ ‘น้องเป็นของกูแล้ว’ เป็นไปไม่ได้.......
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวผมเต็มไปหมด ทำไมผมถึงจำเค้าไม่ได้นะ แน่นอนผมว่า ซึงริต้องจำผมได้แน่ แต่ทำไมซึงริถึงไม่บอกผม ทำไมถึงให้ผมเข้าใจผิดว่าเค้าเป็นซึงฮยอน ซึงริคงไม่ได้ตั้งใจจะหลอกจียงหรอกนะ ไม่สิ ซึงริไม่ใช่คนแบบนั้น .....ถ้าอย่างนั้น เพราะอะไรล่ะ
ผมเปิดดูพาสปอร์ตของซึงริก็พบว่าซึงริเพิ่งจะกลับมาจากอเมริกาได้ไม่นานหลังจากที่พวกเรารู้เรื่องซึงฮยอน แล้วผมก็เปิดสมุดเล่มสีดำดู ก็พบข้อความที่เขียนด้วยลายมือไก่เขี่ย ......ผมช็อคอีกครั้งครับ รู้สึกเหมือนหายใจติดขัด หัวใจของผมมันเต้นแรงเหลือเกิน ผมหลับตาลงแล้วคิดว่าจะทำยังไงดี .............. . ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมต้องหยุดอีซึงริให้ได้
.
.
.
.
“ ซึงฮยอน สงสัยนายทำโจ๊กไม่อร่อยแน่เลย ไอ้ท้อปมันถึงไม่อยากอยู่กินอ่ะ ” จียงพูดในขณะที่ตักโจ๊กเข้าปากคำเบ้อเริ่ม
“ งั้นพี่ก็ไม่ต้องกิน ” ซึงริทำท่าแย่งชามโจ๊กกลับไป
“ อ่ะ ๆ ไม่เอาๆ พี่ว่า ก็อร่อยดีนะ ”
“ ก้พี่เท... เอ้ยพี่ท้อป เค้าบอกเองนี่ฮะ ว่าเค้ามีธุระด่วน ต้องรีบไป ”
“ ไอ้ท้อปมันก็งี้แหละ เวลามันมองนายอ่ะอย่าไปคิดมากนะ พี่ว่ามันคงยังโกรธๆ อยู่ ” จียงพูดในขณะที่ตักโจ๊กเข้าปากอีกคำ
“ อื้มครับ........ พี่จียงฮะ ผมจะใช้เงินคืนให้หมดเลยนะฮะ ” ร่างบางเอ่ยขึ้นเบาๆ แล้วเงยหน้ามองจียง
“ ซึงฮยอน... ”
“ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิฮะ ผมรู้สึกผิดจัง ” จียงวางช้อนลงแล้วเอื้อมมือไปขยี้ผมซึงริ ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
“ พี่บอกนายแล้วไงว่า พี่ผิดเองทั้งหมด ผิดเพราะพี่รักนาย ส่วนเรื่องเงินน่ะ ช่างมันเถอะ ”
“ พี่..จียง ”
“ รีบๆ กินซะ เดี๋ยวโจ๊กมันก็เย็นมันหรอก ”
.......จุก ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาติดอยู่ที่ต้นคอ .....ซึงริมองหน้าจียงที่ยังคงยีผมของเค้าเล่นอยู่ แววตาของจียงที่มองมาสร้างความรู้สึกลำบากใจให้เค้า
“ ไม่ว่าต่อไป ถ้าพี่จียงจะต้องเสียใจ สัญญากับผมนะฮะ ว่าพี่ต้องลุกขึ้นยืนให้ได้ เข็มแข็งนะฮะ ”
ถึงแม้ควอนจียงจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับความหมายของคำพูดที่ซึงริเอ่ยออกมา เค้าเองก็พอจะรู้ว่าเวลาของความสุขของเค้า ก็คงมีได้แค่ไม่นาน ร่างหนาขยับตัวกอดร่างบางอย่างอบอุ่น พลางคิดในใจ
......จะทำยังไงนะ พี่ถึงจะมีนายอยู่กับพี่อย่างนี้ตลอดไป....
#
#
#
#
โปรดติดตามตอนต่อไป....
Wednesday, March 17, 2010
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
2 comments:
เย้ กาโฮ ๆๆๆ
สนุกจัง > w <
Post a Comment