Title :: Poison Love
Author :: zime_ii
Paring :: TOP x GD x VI
Genre :: Sadness
Author :: zime_ii
Paring :: TOP x GD x VI
Genre :: Sadness
“ ไปกันเถอะจียง ”
“ ยองเบ.... พรุ่งนี้ ฉันจะกลับโซล..... ”
#############################################
ปากกาด้ามสวยถูกมือหนาควงไปมาอยู่นานร่วมชั่วโมง เจ้าของปากกาเหม่อลอยไร้สติ ในหัวสมองมีแต่เรื่องเดียว เรื่องคนที่จากไปเพราะน้ำมือตัวเอง
ชเวซึงฮยอนนั่งอยู่ภายในห้องทำงานตำแหน่งสูงสุดของบริษัท สองตาคมมองออกไปภายนอกตึก ภาพตึกราบ้านช่องยังคงให้แสงสีละลานตา แข่งกันสว่างไสวท่ามกลางใจกลางเมือง แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ตกอยู่ในห้วงความคิดของเค้าเลย ต่อให้วิวภายนอกตึกจะน่าชมแค่ไหน คนที่ตายไปแล้วต่างหากที่ครอบคลุมไปทั้งความรู้สึกนึกคิดของเค้า
หากจะถามว่า ชเวซึงฮยอนสำนึกผิดรึเปล่ากับสิ่งที่ทำลงไป เป็นไปได้มั้ยที่ผู้ชายคนนี้จะสำนึกผิด
กริก!!
ปากกายี่ห้อดังด้ามสวยหักลงคาคู่มือหนา นี่แหละคือคำตอบ ความเคียดแค้นที่เค้ามีต่อตัวเองยังไงล่ะ
Rrrrrrrr Rrrrrrrrr
เสียงเรียกของโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกให้ซึงฮยอนตื่นจากภวังค์
“ ว่ายังไง ...คิมโบรา ”
เสียงเข้มกดปุ่มตอบรับตามปกติ
“ มีแขกมาขอพบท่านประทานค่ะ ”
เลขาสาวตอบกลับอย่างสุภาพ
“ นัดไว้รึเปล่า ”
“ เปล่านะคะ แต่เธอบอกว่า ท่านประธานรู้จักเธอดีค่ะ ”
“ ใครกันนะ ”
“ จะให้เธอเข้าไปพบมั้ยคะ ”
“ ให้เธอเข้ามา ”
“ ตกลงค่ะ ”
หลังจากจบคำสั่งของท่านประธานใหญ่ ประตูบานกว้างก็ถูกเปิดออกทันที คิมโบราเลขาสาวรูปร่างผอมเพรียวผายมือนำทางให้แขกผู้มาเยือน
ผู้หญิงร่างบางในชุดกางเกงยีนส์ขาดรุ่ยรัดรูปเผยให้เห็นเนินขาเนียนสวย รองเท้าส้นสูงสีขาว เข้ากันได้ดีกับเสื้อสีครีมเปิดไหล่กว้าง ผมยาวหยักโศกสีบรอนซ์โฉบเฉี่ยวยาวเลื้อยไปถึงกลางหลัง และแว่นสีชาที่บดบังดวงตาของสาวเจ้าได้อย่างดี แถมยังสร้างความเซกซี่ให้เธอไม่น้อย เมื่อเธอเข้ามาถึงในห้องนี้แล้ว เธอก็มุ่งหน้าไปหาซึงฮยอนทันที
ร่างบางโผเข้าโอบกอดจากด้านหลัง เรียกความตกใจให้กับประธานบริษัทที่นั่งมองเหม่อออกนอกหน้าต่างทันที และเมื่อคนที่ถูกจู่โจมอย่างกะทันหัน จะพยายามหันหลังกลับ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะสาวสวยออกแรงกอดแน่น ทำให้เค้าขัดขืนไม่ได้
“เธอเป็นใคร”
ซึงฮยอนเอ่ยเสียงเข้ม
“ คิดถึงจังเลย ”
ปากบางกระซิบเข้าที่ข้างหูร่างสูง ซึงฮยอนย่นคิ้วแปลกใจ เมื่อรู้สึกคุ้นหูกับเสียงนี้
“ ฉันถามว่าเธอเป็นใคร ”
“ อะไรกัน แค่นี้นายก็จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ ”
เสียงหวานยังคงเอ่ยกระซิบ ณ ตำแหน่งเดิม ริมฝีปากสวยเม้มเข้าที่ติ่งหูซึงฮยอนเบาๆ มือบางวนไล่ไปตามอกกว้างของชายหนุ่ม
“ ทำอะไรของเธอน่ะ !! ”
ซึงฮยอนทำท่าทีจะลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ถูกสองมือบางดันไหล่กว้างนั้นให้นั่งลงต่อ นับตั้งแต่สาวน้อยคนนี้เข้ามาทำลุ่มล่ามกับเค้า เค้ายังไม่ทันได้สังเกตุหน้าตาของเธอแม้แต่น้อย แต่ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่ชอบหรอกนะ ผู้ชายที่ไหนไม่ชอบผู้หญิงที่อยู่ดีดีก็มาหยิบยื่นสิ่งดีดีของตัวเองให้กับเค้าแบบนี้ แต่ถึงจะไม่ได้ปฏิเสธ แต่กับซึงฮยอน เค้าไม่ใช่คนที่จะมาใช้ภาษากายกับใครง่ายๆ
“ อย่าเพิ่งรีบโมโหสิ ซึงฮยอน ” มือขาวเนียนยังคงลูบไล้ไปตามเสื้อสูทราคาแพง ก่อนจะเดินจากข้างหลังหันมาเผชิญหน้า
“ พอจะจำฉันได้มั้ย ”
ร่างบางสบตาซึงฮยอนอย่างจัง สองตาคมเข้มที่ถูกหรี่ลงอย่างครุ่นคิด เค้ารู้สึกคุ้นคู่ตาใต้แว่นสีชานั่นมาก
“ ถอดแว่นออกสิ ”
“ ทำไมถึงได้ลืมกันง่ายอย่างนี้นะ ”
ร่างบางหย่อนตัวลงบนตักของซึงฮยอน ก่อนจะถอดแว่นออก แล้วซบลงบนอกกว้าง สองมือบางยังคงลูบไล้ร่างกายกำยำของคนตรงหน้าไม่หยุด นิ้วเรียวลัดเลาะปลดกระดุมเม็ดแพงออก
“ จำฉันได้รึยัง หืมมม ”
เมื่อสองเม็ดกระดุมถูกปลดออกจากเสื้อ ริมฝีปากบางเอ่ยถามคำถามเดิมอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนมือไปหาแผงอกกว้าง
“ ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ ”
“ อย่าทำเป็นปฏิเสธฉันเลย ซึงฮยอน......ฉันรู้ ในใจของนายน่ะ ต้องการฉัน....ใจแทบขาด ”
“ เธอ หมายความว่ายังไง ”
“ ถึงขนาดนี้แล้วยังจำฉันไม่ได้อีกหรอ ว่าฉันเป็นใคร จำไม่ได้เลยหรอว่าเคยทำอะไรไว้กับฉันบ้าง ”
“ เธอเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่ ”
“ ต้องการให้นายจำฉันได้ไงล่ะ ”
ความรู้สึกของสัมผัสช่างคุ้นเหลือเกิน ซึงฮยอนคิดในใจพลางสบตาคู่สวยนั่น เค้าไม่อยากจะคิดว่าเธอเหมือนกับคนบางคน แต่มันก็ไม่มีทางจะเป็นคนๆ นั้นที่เค้าคิดได้อยู่แล้ว
ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้.......เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ก็ในเมื่อ นายนั่นตายไปแล้วนี่นา......
“ คิดนานจังเลยนะ แค่สบตาฉันก็ยังนึกไม่ออก จะต้องให้ฉันจูบนายก่อนรึยังไง ”
“ นี่ เธอ.......อื้ออ~ ”
ริมฝีปากบางเข้าประกบริมฝีปากหนาทันที ลิ้นบางกวาดต้อนทั่วทั้งโพรงปาก ความหวานที่คุ้นเคย ถึงจะเป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ได้เคยสัมผัส แต่ซึงฮยอนก็จำมันได้ดี เพราะครั้งหนึ่งริมฝีปากบางๆ เดียวกันนี้ เคยกัดปากเค้าแทบขาด
“ นาย..... ”
“ นาย...ยัง..... ”
“ นายยัง ไม่......ไม่ ตายงั้น..หรอ.... ”
“ ควอนจียง ! ”
“ หึหึ นายคิดว่าไงล่ะ รสจูบที่นายบีบบังคับเอาจากฉัน กับจูบที่ฉันเสนอให้นาย รสไหนน่าประทับใจกว่ากันล่ะ ”
“ เป็น ไปไม่ได้......เธอไม่ใช่ผู้ชาย ”
ชเวซึงฮยอนมองร่างบางกว่าเค้าบนตักอย่างสับสน ความคิดในหัววิ่งตีกันไปหมด เค้าก็อยากจะตีใจ ถ้าหากว่าคนตรงหน้าเป็นจียงจริงๆ แต่ถ้าอย่างนั้น ทำไมจียงจะต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงมาทำแบบนี้กับเค้าด้วย อีกอย่างการกระทำแบบนี้ ถ้าหากเค้าไม่ได้เป็นฝ่ายบังคับเอาจากจียงเอง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จียงจะมาเสนอให้เค้า เพราะแม้แต่หน้าของเค้า เค้าเองก็รู้ดี ว่าจียงคงไม่คิดอยากจะมอง
“ ไม่ใช่ผู้หญิงงั้นหรอ ”
ขาเรียวเปลี่ยนท่านั่งไปขึ้นคร่อมซึงฮยอน เสียงหวานเอ่ยถามเบาต่อหน้า ก่อนจะจงใจให้สิ่งที่แสดงความเป็นชายต้องตัวร่างสูง
“ นะ....นายย ”
สีหน้าของซึงฮยอนบ่งบอกถึงความตกใจได้อย่างชัดเจน ร่างบางกดยิ้มที่มุมปาก
“ นายยัง....ไม่ตายงั้นหรอ ”
“ ทำไม.....?! เสียใจรึไงที่ฆ่าฉันไม่ตาย ” ถึงแม้คำพูดของร่างบางจะฟังดูแดกกันไปสักนิด แต่ท่าทางของจียงก็ไม่ได้เลิกส่อไปในทางล่อแหลมเลย เค้ายังคงปลุกอารมณ์ของซึงฮยอนต่อไป
“ ถ้าอย่างนั้น นายกลับมาหาฉันทำไม ?”
“ ก็ฉันบอกนายแล้วไง ว่าฉันคิดถึงนายจังเลย ”
“ ไม่จริงอ่ะ ”
ถึงจะดีใจที่จียงยังไม่ตายอยู่ชั่วขณะหนึ่งก็จริง แต่ความสับสนก็ยังมีมากกว่าอยู่ดี จะเป็นไปได้ยังไงที่คนที่พยายามจะหนีเค้าไปให้ไกลสุดขอบฟ้า จะกลับมาทำตรงกันข้ามกันหลังจากที่รอดตายจากเหงื้อมือเค้า
“ไม่จริง ...นี่คือ ไม่เชื่อว่าฉันเป็นควอนจียง ผู้ชายที่นอนจมกองเลือดนั่น รึว่าไม่เชื่อเหตุผลที่ฉันกลับมาหานายกันล่ะ”
“ นายต้องการอะไรกันแน่ จียง ”
“ ดูเหมือนคำถามจะซ้ำนะซึงฮยอน.....ต้องการอะไรงั้นหรอ............. ”
“ ...... ”
“ ฉันต้องการนายยังไงล่ะ ”
“ นายไม่ใช่ควอนจียงคนเดิม...! ”
ถูก...ร่างสูงเพ่งพินิจคนที่เค้าคิดว่าเป็นควอนจียง ในเครื่องแต่งกายผู้หญิง ควอนจียงไม่ใช่คนพูดจากระแทกแดกดันแบบนี้ ควอนจียงคนที่เค้าหลงรักหัวปักหัวปำ จิตใจบริสุทธิ์กว่านี้เยอะ
“ คนเราเปลี่ยนกันไม่ได้รึยังไง ”
จียงลุกขึ้นออกจากตัวซึงฮยอน
“ หมายความว่ายังไง ”
“ เพราะเหตุการณ์วันนั้นมัน.....ทำให้ฉันรู้ว่า นายรักฉันมากแค่ไหน แปลกมั้ยล่ะ ทันทีที่ฉันฟื้นขึ้นมา คนที่ฉันคิดถึง กลับเป็นนาย ไม่ใช่คนอื่น “
เสียงหวานเอ่ยอย่างจริงจัง ก่อนจะหันหน้ามาสบตาซึงฮยอนที่ยังคงนั่งสับสับอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่
“ แล้วเด็กนั่นล่ะ ”
“ ซึงริ.....ตายไปแล้วล่ะ ”
“ งั้นหรอ ”
วูบหนึ่ง ซึงฮยอนก็สังเกตุได้ แววตาของจียงหมองลง
“ แล้วนายไม่แค้นฉันรึไง ”
“ ถ้าฉันแค้นฉันจะกลับมาหานาย แล้วทำแบบนี้ทำไมล่ะ ”
“ ........ ”
“ นายควรจะดีใจนะ ที่คนที่นายรักยังไม่ตายไปจากนาย ”
“ ....... ”
ชเวซึงฮยอนยังคงเงียบจมกับความคิด ความรู้สึกมึนงงยังไม่หลุดออกไปจากสมอง
“ ฉันว่า.....ท่าทางนายยังคงไม่เชื่อสินะ ลุกขึ้นมาสิ มาพิสูจน์ว่าฉันคือควอนจียงรึเปล่า ......ฉันอยากจะลบความทรงจำร้ายๆ เหล่านั้นทิ้งซะ ....จะเป็นไปได้ไหมที่นายจะทำแบบเดียวกันกับคืนนั้น”
“ ......แต่เปลี่ยนความรู้สึกของฉันให้เป็นความเต็มใจแทน ”
มือบางของจียงดึงเอาวิกยาวสีสวยออก เผยให้เห็นผมสั้นระต้นคอสีบรอนซ์สว่าง และใบหน้าที่ซึงฮยอนยังคงจำได้ดี ใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ ชวนให้ร่างสูงอยากจะดึงเข้ามากอดนัก
“ จียง ” ซึงฮยอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที วงแขนหน้ารวบเอาร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว
“ เป็นนายจริงๆ ใช่มั้ย ”
“ อื้ออ ”
“ นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ”
“ ตาบ้า ฝันอะไรจะเหมือนจริงขนาดนี้ ”
“ ฉัน.....ฉันขอโทษ......ขอโทษ ”
ซึงฮยอนประคองใบหน้าของจียงให้สบตาเค้า ร่างสูงยังคงไม่อยากเชื่อสายตา เค้าอยากจะตะโกนออกไปให้ก้องโลกว่า.... ควอนจียงกลับมาหาเค้าแล้ว และ ณ เวลานี้ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร เค้าก็ไม่สนใจอีกแล้ว แค่มีคนร่างบางคนนี้อยู่ในอ้อมกอดของเค้า สัญญากับพระเจ้า เค้าจะไม่มีทางทำร้ายจียงอีก ต่อไปเค้าจะปกป้องควอนจียงคนนี้ ด้วยชีวิตของเค้าเอง
“ มัวมองฉันอยู่ได้ เมื่อไหร่จะเริ่มสักที ฉันยืนจนเมื่อยแล้วนะ ”
“ ที่นี่....อย่างนั้นหรอ ”
“ แล้วที่ไหนอีกล่ะ.... ”
ร่างผอมบางของจียง ยื่นมือขึ้นโอบรอบคอของคนตรงหน้า ริมฝีปากบางกดบิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเผยอปากขึ้นจูบซึงฮยอน
.......จูบที่มันควรจะให้รสหวาน หรือ รสขม......
......หวานสิ รสจูบแบบนี้ล่ะที่ซึงฮยอนต้องการ และโหยหามานาน......
......ความเร่าร้อนของสองลิ้นที่พันเกี่ยวกันไม่ให้ได้หยุดพักหายใจ ทำให้กิจกรรมร่วมรักดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ชเวซึงฮยอนก็พาร่างบางที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยขึ้นมาอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเอง และไม่รอช้าที่จะขึ้นทาบทามอย่างว่องไว
สัมผัสทุกสัมผัสเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไม่ขาดตอน ความร้อนรุ่มทวีคูณขึ้นราวกับต่างฝ่ายต่างโหยหากันมานาน
“ จียง....ฉันขอโทษ ที่เกือบจงใจจะฆ่านาย ”
“ อื้ออ ~~ ”
“ ฉันรักนาย รักนายจริงๆ ”
“ อื้ออ ~~ ”
“ ต่อไปนี้ ฉันสัญญา ต่อให้ชีวิตของฉัน ฉันก็จะให้นาย.... ”
“ นั้นแหละที่ฉันต้องการ อื้ออ ~ ซึงฮยอน ”
ร่างบางคว้าท้ายทอยคนตรงหน้าเข้ามาจูบดูดดื่ม สองมือไม้ ควานไล้ทั่วหลังกว้าง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยไอร้อนแห่งความรัก ซึงฮยอนตกหลุมสเน่ห์การเสนอตัวของจียงเข้าอย่างจัง สติหลุดลอยเข้าสู่อีกภวังค์ของความลุ่มหลง
และนี่ก็คงเป็นสัญญาณที่ทำให้เรื่องทั้งหมด เดินทางมาถึงจุดไคกแมกซ์ มือบางสวยไล่ไปตามขาของตัวเองเพื่อหยิบสิ่งสำคัญออกมา
ปืนด้ามเล็กสีดำที่ถูกซ่อนไว้อย่างดีปรากฏออกมา นิ้วเรียวเล็กเหนี่ยวไกอย่างเบามือ และสำหรับคนที่กำลังเริงร่ากับกิจกรรมรัก ก็ย่อมไม่ทันสังเกตุเป็นแน่
.......ชีวิตของนาย นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ
............ชเวซึงฮยอน
“ ฉัน......รัก.....นาย ..............ควอน จี......ยะ ........อึ้ก ”
“ กริก ”
ไม่ทันที่ประโยคบอกรักจะเดินทางจบประโยค ปืนด้ามเล็กเก็บเสียงก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีเกินคาด ควอนจียงกดยิ้มที่มุมปากอย่างผู้มีชัย กระสุนฝังเข้าที่หน้าอกข้างซ้ายของร่างสูงทันที น้ำเหนียวสีแดงค่อยๆ เคลื่อนที่นองโต๊ะทำงาน
จียงค่อยๆ ดันศพร่างสูงออกจากตัวเองอย่างรังเกียจ ก่อนลุกขึ้นออกจากตำแหน่งนั้น
“ ลุกขึ้นมาปรบมือให้กับฝีมือการแสดงของฉันหน่อยสิ ”
“ .............ขอให้หลับให้สบายนะ ซึงฮยอน ”
############
ท้องฟ้าสีดำมืด ที่แม้แต่ดาวสักดวงก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกมาให้แสงสว่างของตัวมันเองได้ รถสปอร์ตสีดำเคลื่อนตัวออกจากตึกบริษัทใหญ่ด้วยความเร็วสูง
ควอนจียงยิ้มเหี้ยมกับตัวเองราวกับคนเสียสติ
“ หึหึ ซึงริ เหลืออีกขั้นตอนเดียว ทุกอย่างก็จะสำเร็จ ..รอพี่อีกแปปนึงนะ ”
นิ้วเรียวเอื้อมมือเพิ่มความดังของเครื่องเสียงสเตอริโอหรูในรถ ให้ดังกลบเสียงของเคลื่อนยนต์ เท้าขวาเหยียบคันเร่งจนสุดเท้า สองมือจับพวงมาลัยมั่น
.......ถึงตอนนี้ เค้าพร้อมที่จะทำตามที่เค้าตัดสินใจแล้วล่ะ
#########################
“ เมื่อคืนกลางดึกที่ผ่านมา ทางเราได้รับรายงานว่า ประธานบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ได้เสียชีวิตลงแล้วค่ะ จากทางรายงานพบว่า นายชเวซึงฮยอน ประธานบริษัทดังกล่าวได้เสียชีวิตด้วยกระสุนปืนขนาดเล็ก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆาตกรรมด้วยเรื่องราวของธุรกิจค่ะ ”
“ และหลังจากนั้นไม่นาน ทีมงานของเราก็ได้รับรายงานอีกว่า มีรถเบนซ์สปอร์ตสีดำทะเบียน 902B พุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จอดพักอยู่ริมทาง ภายในรถพบผู้เสียชีวิตชายในชุดเครื่องแต่งกายหญิงค่ะ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตทันทีเมื่อประสบอุบัติเหตุ ”
“ เพิ่มเติมจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางเราได้ทราบว่า รถสปอร์ตสีดำคันนี้ยังเป็นคันเดียวกันกับ รถสปอร์ตที่ตอกบัตรเข้าจอดในบริษัทค่ายเพลงดังกล่าวเมื่อก่อนที่นายชเวซึงฮยอนจะเสียชีวิตลงด้วยค่ะ ฉะนั้นทางตำรวจจึงสันนิษฐานว่า บุคคลในรถคันนี้ได้ฆ่าตัวตาย หลังจากทำการฆาตกรรมประธานบริษัทดังกล่าวนั่นเองค่ะ.......หากมีความคืบหน้า ทางสถานีของเรา..... ”
“ ติ๊ด~ ”
ยองเบหยิบรีโมทขึ้นมากดปิดทีวีด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ความเสียใจแทบไม่สามารถเรียกน้ำตาให้เค้าได้อีกแล้ว ไม่สิ ต้องบอกว่า ความเสียใจทำให้เค้าแทบจะไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาระบายความรู้สึกอีกแล้ว
“ .....ความรักของพวกนายสามคน มันช่างเจ็บปวดเหลือเกินนะ ”
ร่างกำยำในชัดเสื้อเชิร์ตสีดำ คว้าเอาเสื้อกั๊กสีขาวขึ้นสวม เครื่องแต่งกายที่ถูกเตรียมไว้ใช้ในงานพิเศษ เค้าไม่คิดเลยว่าจะต้องนำมันมาใช้กับเพื่อนของเค้า ในขณะเดียวกัน สายตาก็ดันหันไปสะดุดเห็นกรอบรูปที่ตั้งตะหง่านอยู่บนโต๊ะข้างโซฟา ภาพของเด็กวัยรุ่นผู้ชายห้าคนกอดคอรักใคร่กันด้วยความรักปรากฎสู่สายตาของเค้าอีกครั้ง
“ กริ๊งงงงงง~ ”
“ ฮัลโหล แดซองงั้นหรอ อืม ฉันดีใจที่นายกลับมาจากอังกฤษ ......อืม อย่าเพิ่งร้องไห้เลยไว้ฉันจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง แล้วเจอกันที่งานนะแดซอง... ”
มือหนากดปิดสายโทรศัพท์ พลางเอื้อมมือคว่ำรูปแห่งความทรงจำใบนั้น ก่อนจะหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าปอดลึก และเดินทางออกจากบ้านด้วยจังหวะการเต้นของหัวใจที่ปวดร้าวเหลือเกิน
.........จบลงสักทีก็ดีเหมือนกัน ความรักของพวกนาย ที่ข่มขืนยิ่งกว่ายาพิษเสียอีก..........
-THE END-
---------------------------------
zime_ii : โหดร้ายมากกกก ใครแต่งฟะเนี่ย ตายกันหมดเรื่อง แง่ม ฮ่าๆๆๆ ส้มขอโทษนะคะ ที่ทำให้มันจบแบบหดหู่ขนาดนี้
อยากลองแนวนี้มานานแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง สนุกมั้ยเอ่ย ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนจริงๆ
ขอบคุณทุกเม้นด้วย อ่านแล้วปลื้มม ฮ่าๆ ฟิคเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าใครผิดนะคะ คงจะจริงอย่างที่เค้าว่า ความรักน่ะเหมือนยาพิษ รึเปล่า??
55+ เอาเถอะค่ะ อย่าหาว่าไรเตอร์ผิดเป็นพอ แล้วไว้เจอกันเรื่องต่อไปนะคะ <3333
1 comment:
จียงร้าย! ร้ายมาก! ที่ร้ายก็เพราะความรักนี่ล่ะเนอะ..
ความรักก็เหมือนยาพิษจริง ๆล่ะมั้ง ?
เพราะถ้ามันเต็มไปด้วยความหลุ่มหลง ความโลภ แล้วล่ะก็จากความรักที่แสนบริสุทธิ์ อาจจะกลายเป็นความรักที่แสนเห็นแก่ตัวก็เป็นได้..
(บ่นอะไรของมัน? ๕๕๕๕+)
พี่ส้มเก่งอ่า! แต่งได้ซับซ้อนซ้อนเงื่อนดีจริง ๆ ><
Post a Comment