Sunday, November 27, 2011
It has been a long time.
I want to start blog again, take a picture again, drees up again, writing an fiction again. Thank you for all those people
Who are inspire me. Thank you again and again. I think I will do well this time. :))
Tuesday, July 19, 2011
[LFY] Lies.. Intro
Pair xx X xx
บทนำ
“มึงเคยอ่านฟิคชั่น หรือพวกนิยาย พวกนั้นไหมจียง...”
“ไม่อ่ะ..”
“ความรักมันก็งี้อ่ะ ใครๆ เขาก็พูดกันว่า อกหักดีกว่ารักไม่เป็นนะเว้ย”
“หึ.. อย่ามาปลอบกันดีกว่าว่ะ แดซอง”
“เอิก...ใครปลอบ กูก็พูดไปตามที่รู้ไงเล่า ทุกครั้งที่ล้มอ่ะนะ มันก็ย่อมเป็นการเริ่มต้นที่ดีเสมอแหละ เชื่อกูๆ”
“เจ้าบทเจ้ากลอนจริงๆ นะมึงอ่ะ พอเหอะ เมามากละ”
“ใครเมา มึงนั่นแหละจียง น่ะ ยกเอายกเอา เดี๋ยวคืนนี้ก็หมดตูดหรอก”
“หึ กูไม่สนว่ะ”
“เห้อ เพื่อนกู โดนผู้หญิงทิ้งทีไร งี่เง่าทุกที กินเข้าไปเหอะ กูไปเข้าห้องน้ำดีกว่า.....เอิก ระวังนะมึง นิยายหลายๆ เรื่องอ่ะ มันชอบเริ่มต้นขึ้นตอนที่นางเอกเมา ไม่ก็พระเอกเมา เจอะกันโดยบังเอิญ เดินชนกัน ยิ่งอยู่ในผับแบบนี้พระเอกเยอะนะว้อย”
“โอ้ยพอเหอะว่ะ แดซอง เลอะเทอะขึ้นทุกที นางเอกไรวะ อย่างกูอ่ะพระเอกเว้ย!”
“ฮ่าๆๆๆ กูไปเข้าห้องน้ำจริงๆ ละ กูออกมา กลับเลยนะ”
“เออ!”
คนอย่างควอนจียง จะแคร์ทำไม ก็แค่ถูกผู้หญิงทิ้ง! คนอย่างควอนจียงเนี่ยนะ! ถูกผู้หญิงทิ้ง หึ...บ้าน่า
ร่างบางนั่งคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวท่ามกลางความวุ่นวายของผับแห่งหนึ่งใจกลางกรุงโซล นิ้วชี้เรียวยาวเขี่ยร็อคไอซ์ในแก้วเหล้าที่เพิ่งสั่งมาใหม่ อย่างเหม่อลอย สายตาก้มลงมองน้ำเมาในแก้ว แล้วกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“ไอ้บ้าเอ้ยย”
สบทออกมาคนเดียว ก่อนจะซดน้ำตรงหน้าเข้าปากจนหมดแก้ว
มือบางยกขึ้นเสยผมสีดำสนิทของตัวเอง แล้วเท้าคาง มองขึ้นเพดานอย่างระเหี่ยใจ
ไม่นานเท่าไหร่ที่เวลาเดินผ่านไป ชายร่างสูงในเสื้อสูทสีชมพูสด ผู้ชายแปลกหน้าที่จียงไม่เคยรู้จักมาก่อนก็มานั่งลงข้างๆ เขา
“ขอแบบที่เขาสั่งสองแก้วครับ” เสียงทุ้มเอ่ยออกไปพร้อมยื่นบัตรเครดิตใบหรูให้พนักงานบริกร
“มาแล้วหรอแดซอง หึ อยากกินต่ออ่ะดิ ไหนว่าจะกลับไง” จียงพูดออกมาโดยที่ไม่ได้หันไปมอง และไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนข้างๆ ไม่ใช่เพื่อนของเขา ร่างสูงไม่พูดอะไรนอกจากรับเครื่องดื่มสองแก้วนั่นมา แล้วเลื่อนมาตรงหน้าให้จียงแก้วหนึ่ง ส่วนอีกแก้วเขายกขึ้นในระดับหนึ่งก่อนจะเอ่ยกับจียงเบาๆ
“ชนกันสักแก้วสิ ควอนจียง..”
“ชน.. ฉลองที่กูถูกผู้หญิงคนนั้นทิ้งน่ะหรอแดซอง”
“นี่ถูกผู้หญิงทิ้งมางั้นหรอ..”
“เอ๊ะ มึงนี่ยังไง”
คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากันเมื่อเริ่มเอะใจในบทสนทนาของตัวเองกับเพื่อน โครงหน้าเรียวค่อยๆ หันไปมองคนข้างๆ ช้าๆ....
“นายเป็นใคร?”
ผู้ชายร่างสูงในเสื้อสูทสีชมพูกางเกงขาเดฟห้าส่วน กับรองเท้าหัวเงามันวาว ที่มีแว่นตาราคาแพงบดบังในหน้าที่แท้จริงอยู่
“ทำไมอยากจะจีบฉันรึไง” พูดออกไปโดยไม่ได้คิดเท่าไหร่ จียงหันกลับมาแล้วคิดกับตัวเองว่า ท่าทางของผู้ชายคนนี้คงจะเจ้าชู้ไม่ธรรมดาแน่ คงจะเป็นแค่พวกเปลี่ยนคู่นอนไปวันๆ แน่ๆ
“คิดมากไปล่ะมั้ง” ควอนจียงหัวเราะหึหึกับตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวไปมองหน้าผู้ชายคนนี้ให้ขัดๆ มือบางคว้าแว่นยี่ห้อดังออกอย่างถือวิสาสะ
“หน้าตาดีใช่เล่นนี่นาย”
“หลงสเน่ห์ฉันรึไง” คนบ้าอะไร! หลงตัวเองชะมัด ควอนจียงยิ้มมุมปากก่อนจะนึกอะไรสนุกๆ ได้ขึ้นมา
“คิดผิดคิดใหม่เถอะ ฉันน่ะ ....มีเจ้าของแล้วต่างหาก”
“เมื่อกี้นายบอกเองไม่ใช่หรอ ว่านายถูกผู้หญิงทิ้งมา”
“......”
“ไม่ใช่รึไง นายดื่มเพื่อจะลืม .เธอ. คนนั้นไม่ใช่รึไง”
“ใครว่า นั่นมันมันเพื่อนฉันต่างหาก”
“งั้นหรอ.... แบบนี้ฉันก็อดน่ะสิ”
หึ คิดไว้แล้วไม่มีผิด.... หน้าตาแบบนี้ เข้ามาแบบนี้ มีอยู่ประเด็นเดียว
“แต่ขอโทษนะ ฉันไม่เชื่อ....” ชายร่างสูงพูดต่ออย่างมั่นใจ แววตาจ้องลึกเข้าไปในตาของจียง ทำเอาชายร่างบางหายใจลำบากรู้สึกเหมือนมันโหวงๆ ในท้องประหลาดๆ
“ถอย...ไปน่า..” จียงตวาดใส่เขาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะลุกหนี เดินออกมาอีกทาง จากที่กำลังกึ่มๆ กับแอลกอฮอล์อยู่ดีดี ก็ต้องมาเจอไอ้บ้ากวนประสาทที่ไหนก็ไม่รู้ เดินออกมาเพียงไม่กี่ก้าว พอหันหลังกลับไป ก็มองเห็นไอ้ตัวสูงหน้าตาดีเดินตามมาติดๆ
จียงมองซ้ายขวาหาทางหนี จนสายตาเขาก็ไปสะดุดกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่กำลังแดนซ์อยู่กลางฟลอร์เข้าให้ จียงพยายามเดินแทรกเข้าไปกลางวงแดนซ์
“ ซึงริ ซึงริแดนซ์เลยๆ เอาอีกๆ ซึงรีซึงรี”
.....ซึงรีงั้นหรอ....
“น่ารักดีแฮะ”
จียงเดินตรงเข้าไปหาซึงรีอย่างทันที... ทำให้คนที่เดินตามมาข้างหลังย่นคิ้วอย่างแปลกใจ
“ที่รักของพี่ สนุกพอรึยังครับ กลับบ้านกันดีกว่า..” จียงพูดพรางคว้าเอาบางของซึงรีเข้าหาตัวของจะบรรจงจูบที่ปากเข้าอย่างรวดเร็ว เรียกความแตกตื่นให้กับบรรดาเพื่อนๆ ของซึงรีไม่น้อย แน่นอน ทุกคนในที่นี้รู้ดีอยู่ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนรักของซึงรีแน่นอน
จียงถอนริมฝีปากออก แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกระพริบตาข้างหนึ่งเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ เด็กหนุ่มเลื่อนมือมาทาบที่หน้าอกตัวเองแล้วหายใจหอบ
แต่ไม่ทันที่จะเกิดอะไรขึ้นไปมากกว่านั้น มือหนาก็คว้าเอาไหล่จียงออกมา แล้วคว้าเอามือบางของซึงรีมากุมแน่น
“แต่ขอโทษทีนะ...ควอนจียง.....ผู้ชายคนนี้น่ะ คนรักของฉันต่างหาก”
“..........”
“พี่ซึงฮยอน.....!”
#
#
#
#
#
ไม่ได้อัพบล้อคมาร่วมปี ยังไงก็กลับมาพร้อมกับฟิคเรื่องใหม่ LIES! รับรองสนุกแน่ค่ะ ไม่รู้จะซ้ำของใครรึเปล่านะ แต่ก้คิดเองนะเออ งื้มมมม เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค่ะ
Tuesday, June 8, 2010
[LFY] I Know Nothing Else But Love 2 {chapter 3 }
Title :: I know nothing else but love {Season 2}
Author :: zime_ii
-Chapter 3-
“ ยัยป้าไร้มารยาท ” เสียงเล็กเอ่ยเบาๆ ในลำคอทันทีที่เห็นหญิงสาวร่างบางยืนยิ้มร่าอยู่หน้าประตูห้อง
“ ป้าเป้ออะไรของนายยะ ฮิฮิ แต่ก็ขอบใจที่เปิดประตูให้นะ ” สาวน้อยร่างบางในชุดๆ เดียวกันกับที่ซึงริเจอเมื่อตอนเช้า เอ่ยเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มหวาน ซานดาร่าขอบคุณซึงริ แล้วเดินตรงเข้าห้องของสองหนุ่มเจ้าของห้องทันที ซึงริย่นคิ้วแล้วอ้าปากค้างเล็กน้อย กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น และเมื่อนึกขึ้นได้ เค้าก็รีบหันหลังเรียกเธอทันที
“ย้า!”
“ว่าไงจ้ะ พ่อหนุ่มน้อยชองฉัน^^ ” ซานดาร่าวางถุงซูเปอร์มาร์เก็ตในมือลง แล้วหันไปพูดกับซึงริที่ยังคงหน้าเหวออยู่
“นี่เธอ ...ใคร ” ซึงริที่เมื่อไม่กี่นาทีมานี้ยังคงอารมณ์คุกกรุ่นเพราะผู้หญิงตรงหน้า กลับมามีน้ำโห อีกครั้ง เพราะคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูเค้าเลยสักนิด อีซึงริตั้งใจจะถามกลับไปว่า ใครกันหนุ่มน้อยของเธอ แต่ก็ต้องถูกเสียงเข้มๆ ที่เดินออกมาจากส่วนของห้องนอนขัดขึ้นก่อน
“ ใครมาอ่ะซึงริ ” จียงที่ออกมาจากห้องนอนด้วยชุดคลุมอาบน้ำเอ่ยถามด้วยใบหน้างงๆ แล้วก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าคำตอบคืออะไร ซึงริเห็นหน้าฉงนนั้น จึงแบมือสองข้างออกเป็นเชิงบอกจียงว่า เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ อ๊า เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้เลย ว่าพวกนายอยู่ด้วยกัน ”
“ เดี๋ยวนะครับ คุณ คือ...ผู้หญิงเมื่อกลางวัน ” จียงถามขึ้นช้าๆ พลางเดินเข้าไปหาเธอที่โต๊ะอาหาร
“ใช่ ฉัน ชื่อซานดาร่าไง ตายละ แค่นี้พวกนายก็จำฉันไม่ได้”
“ จำอ่ะ พวกผมจำได้ แต่คุณมาที่นี่ทำไมอ่ะครับ ” ซึงริที่พยายามจะทำเป็นเหมือนไม่โมโห กลั้นใจเย็นพูดกับผู้หญิงตรงหน้าอย่างสุภาพที่สุด
“ ก็ง่ายๆ ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับพวกนาย ฉันก็บอกไปแล้วนี่ ” ซานดาร่าพูดเรื่อยๆ พรางหยิบผลไม้ และอาหารหลากหลายชนิดออกมาจากถุงที่เธอเตรียมมา
“ แต่นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วคุณ เพื่อนผู้หญิงที่ไหนเค้ามาห้องผู้ชายตอนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ” ซึงริว่าต่อ
“ โธ่ แล้วใครว่าฉันอยากจะมาตอนนี้กัน พวกนายรู้มั้ย ว่า พอพวกนายออกจากสนามบิน ฉันก็รีบให้รถแท้กซี่ตามพวกนายมา กว่าจะรู้ว่าพวกนายอยู่ห้องไหน ฉันยังต้องแบกสังขารไปซื้อของพวกนี้มาให้อีก แถมกว่าจะกลับมาได้ รถก็ติดชะมัด เห้อออ แทนที่นายใช่ม่ะ จียง นายด้วยซึงริ แทนที่พวกนายจะดูแลฉันในฐานะเพื่อนใหม่ให้ดีหน่อยก็ไม่ได้ ” หญิงสาวร่ายยาวจนจบ ทำให้ จียงและซึงริถึงบางอ้อทันทีว่าเธอรู้จักบ้านของพวกเค้าได้ยังไง
....แล้วใครสั่งไม่ทราบล่ะ ร่างบางคิดในใจ แล้วกลอกตาไปมาอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ ถ้างั้น เธอก็อยู่ไปละกัน ฉันขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า ” ซึงริว่า แล้วเดินตรงเข้าไปในส่วนของห้องนอน
“ เอางั้นหรอ จะให้ฉันอยู่กับจียงสองคนเองงั้นหรอ ”
มือเล็กหยุดกึกที่ลูกบิดประตูห้องนอนทันที เมื่อได้ยินประโยคนั้นออกจากปากของผู้หญิงร่างบางที่ถือชามอะไรสักอย่างแล้วเดินลงไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี
“ แต่ก็ไม่เป็นไร ซึงรินายไปนอนก็ได้ ไปเถอะ ฝันดีๆ ส่วนจียง นายมานี่ได้แล้ว นี่ดูสิ ฉันเอาหนังมาดูด้วย ” ดาร่าจัดแจงนู้นนี่ พร้อมๆ กับพูดคนเดียวไปเรื่อย ซึงริย่นคิ้วหม่นลงอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ จียงที่ยังยืนทำอะไรไม่ถูกมองน้อง แล้วคิดหาทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำได้
“ เอ่อ.. ผมว่า คุณ... ” จียงเกิดอาการอึกอักเล็กน้อย ดาร่าเลยหันไปมองทางจียงแล้วมองซึงริสลับไปมา พรางผูกโบว์ที่คิ้วแล้วทำหน้าสงสัยอย่างสุดๆ ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ ก็ต้องบอกว่าเธอน่ารักมากแน่ๆ แต่นี่จียงเค้ามีซึงริอยู่แล้วทั้งคนนี่นา
“ คุณอะไรนาย เรียกชั้นว่าดาร่าก็พอ ”
“ เอ่อ ก็ได้ครับ ดาร่า ”
“ ไม่ต้องมีครับได้ม่ะ ฟังแล้วกระดากหูอ่ะ ”
“ อ่าๆ ดาร่าเฉยๆ ก็ได้งั้น ”
ปัง
เสียงประตูปิดลงอย่างแรงจากฝีมือของใครบางคน ดาร่าหันไปมองทางห้องนอนที่ซึงริเพิ่งเข้าไป แล้วหันไปมองทางจียงอีกครั้ง
“ เพื่อนนายนี่แปลกๆ นะ ”
“ เอ่อ ฉันขอตัวแปปนะ ”
“ อื้อ เสร็จแล้วออกมาดูหนังด้วยกันอ่ะ ” ดาร่า พูดกับจียง แล้วหันมาจัดการกับข้าวของที่เธอเอามาต่อ
ปัง
...กริก
เสียงปิดประตูปิดลงอีกครั้ง พร้อมๆ กับเสียงล็อคประตูที่ดังตามมาติดๆ
จียงมองไปยังร่างเล็กที่ขดตัวอยู่ในผ้าห่มแล้วเดินตรงขึ้นไปบนเตียงทันที ร่างโปร่งขึ้นคร่อมร่างเล็กที่นอนคลุมโปง แล้วดึงผ้าห่มออกอย่างรวดเร็ว
“ ซึงริ ”
“ พี่จียงไปไล่แม่นั่นกลับบ้านเหอะ ซึงริไม่ชอบเลย ” คิ้วคู่สวยขมวดเป็นปมแล้วตอบออกไปทันทีที่พี่จียงของเค้าเรียกชื่อจบ
“ แล้วพี่จะไล่เค้ายังไง ขนาดนายพูดอย่างนั้น เค้ายังไม่ฟังเลย ”
“ เห้อ ก็ไหนพี่จียงบอกไง ว่าตอนนี้เราอยู่ที่นี่กันสองคน ”
“ ก็เราอยู่ที่นี่กันสองคนไง ” จียงตอบพรางปัดไรผมที่ปรกหน้าผากซึงริออก
“ แล้วยัยป้านั่นล่ะ ”
“ ไม่เห็นจะต้องแคร์เลย ” จียงตอบด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ก่อนจะก้มลงปิดปากสุดที่รักจอมขี้โมโหของเค้าทันที
“ อ้ะ พี่จีย....อื้อ... ”
.
.
.
.
“ ออื้ออ อื้ออ ปล่อยก่อนพี่ท้อป พี่ยองเบกำลังจะมานะ ” แดซองดันตัวท้อปออก แล้วเตือนสติคนรักของตัวเองด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่ เค้าหอบหายใจเหนื่อยเล็กน้อย เพราะรสจูบที่ถูกคนตรงหน้ามอบให้ รสจูบที่ร้อนแรงกว่าทุกๆ ครั้ง เพราะมันเริ่มต้นขึ้นจากการทะเลาะกันของทั้งคู่
“ ก็นายไม่เคยเชื่อใจพี่ ” ท้อปพูดเบาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ ด้วยระยะห่างจากริมฝีปากของแดซองแค่คืบ แดซองหลบตาคนตรงหน้า แล้วเม้มปากเป็นเส้นตรง รสจูบที่มีแต่ความร้อนแรง ไม่ได้มีแม้แต่ความรู้สึกเลย
“ ฉันเชื่อใจพี่ เชื่อใจพี่มาตลอด พี่เองต่างหากอ่ะ พี่ไม่เคยรู้ตัวเอง ” แดซองพูด พรางขยับตัวเตรียมจะเดินออกจากห้องออฟฟิทชองผับ ที่ๆ เค้าเข้ามาทะเลาะกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของตัวเอง
“ ทำยังไงผมก็คงคุยกับพี่ไม่รู้เรื่องหรอก บางทีคนอื่นอาจจะทำให้พี่ลืมซึงริได้ แต่คนๆ นั้นย่อมไม่ใช่ผม ”
“ แต่พี่ไม่ได้ต้องการคบกับนายเพื่อลืมซึงรินี่ ”
“ ........ ” แดซองเงียบ แล้วกลืนน้ำลายอย่างลำบาก
“ แดซอง ” ท้อปถอนหายใจ แล้วเรียกชื่อคนรักของตัวเองอีกครั้ง
“ เราเลิกกันเถอะพี่.. ” แดซองพูดเบาๆ แต่ก็เล่นเอาท้อปเบิกตาโต ห้องออฟฟิทขนาดที่ไม่ได้ใหญ่มากเงียบสนิท มีเพียงแต่เสียงลมหายใจของทั้งสองคน ท้อปกำมือตัวเองแน่นด้วยความเครียด ไม่นานประตูห้องออฟฟิทก็ถูกเปิดออก
“ เห้ย มาแล้วเว้ย เห้อเหนื่อยชมัด ไปส่งยัยป้านั่นมา คนอะไรงุ้งงิ้งๆ อย่างกะเด็ก แล้วนะ.... ” ยองเบเดินเข้ามาในห้องแล้วบ่นกระปอดกระแปด แต่ทันทีที่เค้าสัมผัสบรรยากาศมาคุในห้องสี่เหลี่ยมที่มีเพียงแต่แสงไฟจากโคมไฟเล็กๆ ส่องแสงอยู่ในห้องนี้ เค้าจึงต้องเงียบเสียงลงทันที แดซองได้โอกาสนั้นจึงผละออกจากตัวท้อปแล้วเดินหนีออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
ยองเบมองตัวหลังแดซองไป แล้วจึงหันกลับมาหาท้อป
“ ทะเลาะกันอีกแล้วหรอวะ..? ”
.
.
.
.
ผมพูดไปแล้ว ....ผมพูดออกไปแล้ว ผมพูดมันออกไปแล้ว มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยนี่นา แดซอง
ผมเดินออกจากห้องออฟฟิทด้วยความรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ผมคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่ทำอย่างนี้ นึกย้อนไป ถึงตอนที่เราเริ่มทะเลาะกัน หลังจากกลับจากสนามบิน มันก็ยิ่งทำให้ผมคิดว่าผมคิดถูก
‘ พี่ท้อป ผู้หญิงคนนั้นเค้าดู.. ’
‘ พี่ไม่ได้ชอบผู้หญิง นายก็รู้ ’
‘ พี่ชอบผู้ชายบอบบาง ทำไมผมจะไม่รู้ ’
‘ แดซอง.. ’
‘ ฉันไม่ใช่ผู้ชายบอบบางนี่นา ’
‘ แดซอง พี่เคยบอกเราแล้วใช่มั้ย ที่พี่คบกับนายไม่ใช่เพราะพี่ยังลืมซึงริไม่ได้ ’
‘ แต่เป็นเพราะพี่เหงา พี่ไม่มีใคร พี่สงสารฉัน ใช่มั้ยล่ะพี่ ’
‘ แดซอง! ’
‘ ทำไมฮะ หรือว่ามันไม่จริง ’
‘ ทำไมนายถึงไม่เคยเชื่อใจพี่บ้างเลย ’
‘ แล้วสิ่งที่พี่ทำมันน่าเชื่อใจมากรึไง ’
แดซองหลับตาลงแล้วหยุดเดินระหว่างทางเดินของผับ ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เสียงเพลงยังคงดังสนั่นปะปนกับเสียงจอแจของผู้คนที่มาหาความสนุกสนานที่นี่
แดซองถอนหายใจทิ้งอีกครั้ง เค้ายังคงคิดในใจวนเวียนไปมาว่าสิ่งที่เค้าทำนั่นถูกหรือไม่ มันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดรึเปล่า
....คำว่ารัก สักคำ ฉันก็ไม่เคยได้จากพี่ มีแต่คำว่า เชื่อใจพี่เถอะนะ อย่าคิดมาก มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดหรอก ตลอดเวลาที่คบกันมาก็มีแต่คำว่า ทะเลาะ จูบกันแต่ละครั้ง ก็เหมือนมันไร้ความรู้สึกของคำว่าต้องการ แล้วอย่างนั้น จะให้ฉันทนอยู่แบบนี้ได้ยังไง ..... แดซองคนที่เคยร่าเริง พูดเยอะ กลับกลายเป็นคนพูดน้อย เครียด เหม่อลอย แล้วไหนจะเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีก....
“ โทษนะครับ ” แล้วแดซองก็ต้องหยุดความคิดของตัวเองไว้ เมื่อมีใครสักคนมาสะกิดเค้าจากด้านหลัง
ผู้ชายสูงรูปร่างผอมที่แดซองไม่เคยเจอมาก่อน แต่ใบหน้าของเค้าก็ทำให้แดซองรู้สึกคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก เค้าใส่เสื้อผ้าดูดีมีฐานะทีเดียว หน้าตาดูเด็กกว่าเค้าเล็กน้อย แต่ดูท่าทางแล้ว เด็กผู้ขายคนนี้คงจะกร้านโลกไม่เบา เพราะในมือของเค้าคืบบุหรี่ติดไฟไว้อยู่อีกด้วย
..คงเป็นพวกเด็กที่มาเที่ยวผับทั่วไปล่ะมั้ง ...แดซองคิดในใจ
“ ครับ ”
“ นายเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาคล้ายๆ ฉันบ้างรึเปล่า เธอเป็นพี่สาวฉันน่ะ คือ ฉันต้องการตัวเธอกลับบ้านมากๆ เลย ” พูดจบเค้าก็ยกบุหรี่ที่อยู่ในมือขึ้นมาสูดเข้าไปเต็มปอด
หน้าตาก็ไม่ได้ดูเลวร้าย ทำไมทำตัวซ่าๆ แบบนี้นะ.....แดซองว่าในใจอีกครั้ง
“ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็มีอยู่เต็มไปหมดน่ะครับ ผมเองก็ไม่ทราบหรอก คุณมีรูปเธอรึเปล่าล่ะครับ ” แดซองตอบ แล้วชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจกับท่าทางของเด็กผู้ชายที่ดูเกเรคนนี้เท่าไหร่
หลังจากได้ฟังคำตอบของแดซองเรียบร้อย เด็กผู้ชายร่างสูงคนนี้ก็คว้าเอากระเป๋าสตางค์ออกมา แล้วโชว์รูปพี่สาวของเค้าให้ดู
แดซองเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นรูปผู้หญิงคนที่เด็กผู้ชายคนนี้ถามหา เค้าเงยหน้าจากรูปแล้วมองหน้าเด็กผู้ชายคนนี้
“ ผม...ไม่เห็นเธอที่นี่นะครับ ”
“ ซางฮยอน~ ฉันดูทั่วแล้วว่ะ ไม่เจอเลย ฉันว่ากลับกันเหอะว่ะ ” หลังจากที่แดซองตอบเค้าออกไป ก็ดูเหมือนว่าเพื่อนของเด็กผู้ชายคนนี้จะเดินมาบอกเค้าเหมือนกัน ว่าผู้หญิงคนในรูปไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วทำไมน้องชายของเธอต้องคิดว่าเธออยู่ที่นี่ด้วย แดซองคิดในใจ
“ งั้นหรอจุน เห้อ ยัยบ้านี่คิดจะทำอะไรกันนะ ป๊าเล่นงานฉันยำแน่ๆ ให้ตายสิ .... ”
“ ไปเหอะ.. ”
ซางฮยอนหันมาหาแดซองอีกครั้ง แล้วก้มหัวเป็นเชิงขอบคุณเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปกับเพื่อน ทิ้งความข้องใจไว้ให้กับแดซองอย่างมาก แดซองมองตามหลังเด็กผู้ชายคนนั้นกับเพื่อนแล้วเริ่มคิดหนัก
.......ปาร์ค ซางฮยอน น้องชายของเธองั้นหรอ หวังว่าเธอคงไม่ได้มีแผนการอะไรซ้อนกับฉันหรอกนะ ซานดาร่า......
#
#
#
#
โปรดติดตามตอนต่อไป.....
zime_ii .. งื้อๆๆๆๆ ขอโทษมากๆ เลยค่า ส้มต้องขอโทษอย่างรุนแรง เชฟนี้เลทสุดๆ ฮ่าๆๆ โดนเด็กๆ ตามจิกตามทวง สั้นไปหน่อยนะคะ เพราะเวลาแต่งมีจำกัดมากก สนุกม้ายยยย ส้มขอกำลังใจหน่อย งุงิๆ ฮ่าๆ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนเน้อ รักกันๆ ไรท์เตอร์ผู้นี้รักรีดเดอร์ทุกกกกกคน มั๊วๆๆๆๆๆๆ