Tuesday, March 16, 2010

[SF]Poison Love. TOPxGDxVI {01/02}

Title :: Poison Love
Author :: zime_ii
Paring :: TOP x GD x VI
Genre :: Sadness



Intro:


“เมื่อความรักของฉันมันไม่สมหวัง ก็อย่าได้มีใครได้สมหวังเลย พระเจ้า.....ได้โปรดให้อภัยผมด้วย”
...........ชเวซึงฮยอน

สายตาเกรี้ยวมองออกไปนอกหน้าต่าง ฟันกรามขบกันแน่นเพราะอารมณ์ที่ผิดหวัง มือทั้งสองถูกกำแน่นจนเล็บที่ถึงแม้จะไม่ได้มีความยาวสักเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้เกิดรอยซิบให้เลือดซึมออกมาจากฝ่ามือของเค้าได้





“ฉันจะหนีนายไปให้ไกลที่สุดขอบฟ้า วอนพระผู้เป็นเจ้า ขออย่าให้ผมได้เจอเค้าอีกเลย ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติใดก็ตาม”
...............ควอนจียง

น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้มทั้งสองราวกับสายน้ำ ถ้าหากไม่มีน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัวล่ะก็ เค้าคงเป็นผู้ชายที่ร้องไห้ได้น่าสมเพชที่สุด มือบางทั้งสองขัดถูไปตามร่างกายอย่างออกแรง ปานว่าอยากจะให้ผิวหนังหลุดติดมือออกมาด้วย ร่างเปลือยเปล่าใต้สายน้ำที่ไหลออกมาไม่ขาดสายขดตัวลงนั่งกอดเข่าบนพื้นห้องน้ำ อันที่จริงเค้าควรจะต้องโกรธดีเดือดมากกว่าจะมานั่งเศร้าแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่เค้าก็แค่ไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง ว่าร่างกายนี้ของเค้าถูกย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้จริงๆ






“ในที่สุด วันนี้ก็มาถึง วันที่ผมจะได้อยู่กับพี่สักที พี่จียง ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ผมเกิดมาบนโลกใบนี้ โลกใบเดียวกันกับเค้า”
.............. อีซึงริ

สองวงแขนบางออกแรงกอดตัวเองแน่นขึ้น ก่อนจะก้มหน้าลงภายใต้ผ้าพันคอผืนอุ่น อากาศหนาวเหน็บและสายหิมะที่โปรยปราย ไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กหวาดหวั่นแม้แต่น้อย ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกอย่างดีใจ เมื่อเห็นรถสปอร์ตสีดำที่รอคอย วิ่งผ่าสายหิมะเข้ามาสู่สายตา จังหวะหัวใจเต้นแรงและถื่ขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับจังหวะแรมโบ้ในงานรื่นเริง ความดีใจแล่นพล่านทั่วทั้งอก น้ำตาใสพานจะไหลออกมาเพราะความตื้นตัน







-Poison Love-



P1/2


ปัง!!!!
เสียงไกปืนดังลั่นออกจากกระบอกปืนด้ามเล็กสีดำ ชายร่างเล็กล้มลงหมดสติกับพื้นทันทีที่สิ้นสุดเสียงนั้น หิมะขาวโพลนจึงถูกโชกไปด้วยน้ำเหนียวสีแดงทันที

“พี่จียง”
ชายร่างเล็กกว่าอีกคนโผเข้าหาเค้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่หวีดเรียกชื่อคนรัก

“แค่นี้น่ะ มันยังน้อยไปสำหรับคนอย่างนาย ควอนจียง”
ชเวซึงฮยอนกดยิ้มที่มุมปาก พลางมองต่ำไปยังร่างไร้สติที่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น

“พี่เค้าไปทำอะไรให้นาย ฮึก ทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วย ร้ายกาจ....ฮึก นายมันร้ายกาจ นายมันไม่ใช่ มนุษย์!!”
เสียงใสตะโกนต่อว่าร่างสูงอย่างต่อเนื่อง ปากบางเม้มเข้าหากันแน่น น้ำตานองหน้า ความเศร้าที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว มันจึงทำให้เค้าสะอึกสะอื้นไม่หยุด

“ ได้ยินมั้ย ?! นายมันไม่ใช่คน....ฮึก พี่จียง อย่าเป็นอะไรนะฮะ พี่!! ”
ไร้การตอบสนอง ดูเหมือนว่าควอนจียงจะหลับลึกเข้าสู่ห้วงนิทราซะแล้ว

“ได้ยินชัดเลยล่ะ ฮึ แต่ว่านายรู้อะไรรึป่าวล่ะ ถ้าหากว่าโลกนี้ไม่มีนาย ฉันก็คงไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก คงไม่ต้อง......ฆ่าคนที่ฉันรักแบบนี้หรอก”
ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าคนตัวเล็ก มือซ้ายคว้าคางมนมาบีบเอาเป็นเอาตาย น้ำเสียงขึ้นลงราวกับคนเสียสติ ท้ายประโยคตะคอกใส่ลั่นก่อนจะผลักคนตัวเล็กให้ร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างเยือกเย็น

“หมายความว่ายังไง คนที่นายรัก พี่จียงเป็นคนที่นายรักอย่างนั้นน่ะหรอ แต่ถ้าอย่างนั้น ทำไมนายต้องฆ่าเค้าด้วย ฮึก ถ้าอย่างนั้น คนที่นายควรฆ่า ควรจะเป็นฉันแทนเซ้ นายฆ่าเค้าทำไม?!”

มันก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกัน กับการที่ต้องเห็นคนที่รักนอนตายอยู่ตรงหน้า ฉันกับนายน่ะกำลังตกอยู่ในสถานะเดียวกันด้วยซ้ำ แต่ที่ต่างน่ะ คือฉันไม่ใช่คนที่นายนั่นรัก และฉันก็ไม่ใช่คนที่ต้องการพยายามปกป้องนายนั่นเหมือนที่นายกำลังทำอยู่นี่ด้วย ต่างกันที่ฉันเป็นคนฆ่าควอนจียงด้วยน้ำมือของตัวเอง แล้วอะไรคือเหตุผลที่ฉันฆ่าเค้า ไม่ฆ่านายงั้นหรอ เพราะอะไรรู้มั้ย

“ หึ ก็เพราะฉันไม่ต้องการให้เค้าเสียใจเพราะนายตายไงล่ะ ”

“อำมหิต!”

“ เพราะฉันเลือกที่จะเป็นฝ่ายเสียใจเองน่ะสิ ”

“ เลือดเย็น! นายมันไม่ใช่คน ”

“ ทำไมห๊า!??! เสียใจมากนักรึไง ฉันเองก็เสียใจไปไม่น้อยกว่านายหรอกน่า หุบปากซะ รึว่านายอยากจะตายอีกคน ”

“ ฮึกๆ นายมันไม่ใช่คน นายมันไม่ใช่คน ......นายมันไม่ใช่....ไม่ใช่คน ”

ร่างบางที่สะอึกสะอื้นยังคงพร่ำประโยคเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปะทุให้อารมณ์ของซึงฮยอนเดือดพล่านขึ้นมาอีก

“ ฉันบอกให้นายหุบปากไง ”

“ ทำไม!?! ถ้าฉันไม่หุบปาก นายจะฆ่าฉันใช่ไหมล่ะ ดี!! ฉันจะได้ไปอยู่กับพี่จียงไง ”

“ เสียสติไปแล้วรึไงห๊า ฉันบอกให้หุบปากไง ”

“ นายมันมันใช่ โค้นนนนนนนนนน ”

#### ปัง ####
..................พระเจ้า ได้โปรดให้อภัยลูกด้วยเถอะ......ได้โปรด......




ร่างบางของซึงริล้มลงทับจียงช้าๆ ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตา จดจ้องมองซึงฮยอนไม่ลดละ
“ ขอบใจนะ...ที่...ทำให้...ฉันจะได้ไปอยู่กับพี่จียง....... ”


ร้ายกาจเกินไปมั้ยซึงฮยอน.........
จริงอย่างที่เด็กนั่นพูด..........นายน่ะ ..มันไม่ใช่คน.........




########################################



“ นายมันไม่ใช่โค้นนนนนนนนน ”
ร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที มือหนาขยี้ผมตัวเองอย่างหัวเสีย นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ ที่เค้าต้องฝันถึงเหตุการณ์วันนั้น ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่เสียงของซึงริก็ยังคอยตามหลอกหลอนเค้าไม่เลิก ชเวซึงฮยอนลุกออกจากเตียง แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำหรู สองมือหนากวักน้ำล้างหน้าเพื่อเรียกสติ สายตาของเด็กคนนั้น เค้ายังคงจำมันได้ดี ชเวซึงฮยอนมองตัวเองในกระจกบ้านใหญ่ ภาพของชายในชุดคลุมปรากฎอยู่ในกระจก ผมดำสนิทยาวระต้นคอ หยดน้ำที่เกาะพราวไปทั้วทั้งใบหน้า ชเวซึงฮยอนเพ่งมองตัวเองด้วยความรู้สึกอันยากลำบาก

“ นาย...คงจะไม่ใช่คนจริงๆ อย่างนั้นแหละ ซึงฮยอน..... ”

“.......”

“ โธ่เว้ยยยยยย ”

ตาคมจ้องคนในกระจกไม่ละละ สายตาที่แทบจะกินเลือดกินเนื้อกันได้ถูกส่งเข้าไปยังร่างที่ยืนจ้องกลับมาในกระจกอย่างโกรธแค้น เบื้องลึกของจิตใจย้อนถามซึงฮยอน........คราวนี้โกรธแค้นใครอีกละ...... นายยังเหลือคนให้แค้นอีกงั้นหรอ.....

“ พอสักทีเถอะน่า.. ฉันรู้ว่าฉันมันผิดแค่ไหน ขอร้องละ อย่าตอกย้ำกันอีกเลย ”

......นายคงโกรธตัวเองสินะ ชเวซึงฮยอน ทำไมไม่ตายตามเค้าไปซะล่ะ ในเมื่อนายกล้าที่จะหยิบยื่นความตายให้คนอื่นได้ แล้วทำไมถึงไม่กล้าหยิบยื่นมันให้กับตัวเอง คนอย่างนายมันขี้ขลาดสิ้นดี.......

“ พอสักที หุบปากนั่นสักที!!!!!!!!!! ”

......ทำไม ถ้าฉันไม่หุบปาก นายก็จะฆ่าฉันเหมือนที่ทำกับเด็กคนนั้นงั้นสิ.....

“ โธ่เว้ยยยยยยย ”

ร่างสูงทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างเสียสติ ความผิดยังคงตอกย้ำให้เค้ารู้สึกแทบอยากจะบ้าคลั่ง ไม่รู้จะอีกนานแค่ไหนที่เค้าจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ ถึงแม้ว่าในตอนนนี้เค้าจะรู้ดีแล้วว่า ผลสุดท้ายของเรื่องทั้งหมด ความเจ็บปวด และความทรมาน ที่สุดแล้ว มันตกอยู่กับใคร
“ ฉันขอโทษจริงๆ .....ควอนจียง ”


######################################


“ควอนจียง มานี่ ๆ ฉันช่วยถือ”
ยองเบเพื่อนสนิทคนเดียวของจียงปรี่เข้าไปหาเพื่อนตัวบางทันทีเมื่อหันไปเห็นเค้ากำลังถาดข้าวด้วยท่าทางทุลักทุเล

“ ฉันไม่เป็นไรน่า ฉันไม่ใช่คนพิการสักหน่อย ”

“ ก็ยังอวดเก่งเหมือนเคยนะนาย ”
ยองเบสายหัวระอากับนิสัยของเพื่อนก่อนจะแย่งเอาถาดอาหารมาอยู่ในมือจนได้

“ เฮ้อออ ”
ร่างบางถอนหายใจยาว พลางนั่งลงประจำตำแหน่งในโต๊ะอาหาร ก่อนจะมองเหม่อออกไปยังนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ได้เหมาะกับอารมณ์ที่เค้าเป็นอยู่ในตอนนี้ซะ เลย ใบไม้ใบหญ้าที่ให้สีเขียวชะอุ่ม สายลมเย็นที่โชยไปมา ทำให้จียงต้องกระชับเสื้อกันหนาวตัวบางเข้าหาตัว สายตายังคงเหม่อเลยไร้ความสึก หน้าร้อนที่หนาวจับใจ ภาพของหิมะที่ถูกอาบไปด้วยของเหลวสีแดง ร่างเล็กที่นอนจมกองเลือดเคียงข้างเค้า ยังคงติดอยู่ในตา น้ำใสๆ เตรียมพร้อมที่จะไหลออกมา หากแต่เพื่อนรักที่นั่งสังเกตอาการของเค้าอยู่ก็ปลุกให้ตื่นจากภวังค์เสียก่อน


“ เห้ย กินข้าว นายเหม่ออีกแล้วนะจียง ”

“ อะ....อ่อ...อือ ...โทษที ”
ควอนจียงหันมาสนใจอาหารตรงหน้า เพียงแต่แค่คู่ตะเกียบเท่านั้น แต่แม้แต่น้อยของจิตใจก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้เลย

“ จียง... ”

“ ......... ”
ยองเบเรียกชื่อเพื่อนอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ จากคนตรงหน้า .....เมื่อไหร่นะ นายจะทิ้งความทุกข์ทั้งหมดนั่นให้เป็นอดีตสักที.... ระยะเวลาสิบปีที่เป็นเพื่อนกันมาทำให้เค้าเป็นห่วงเพื่อนจับใจ

“ เนื้อนี่นุ่มมากเลยนะจียง ลองกินดูดิ ”

“ อ่อ....อืม ”

คำตอบสั้นๆ กับรอยฝืนยิ้มเจื่อนๆ ถูกส่งไปให้ยองเบ .....จะให้ต้องใช้เวลาสักเท่าไหร่กัน จียงถึงจะกลับมามีความสุขเหมือนเดิม ตัวเค้าเอง ก็เข้าใจหรอกนะว่า ระยะเวลาแค่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็คงไม่มีใครทำใจได้หรอก ถ้าหากว่าอยู่ดีดีก็ต้องมาเสียคนที่รักไป แต่การที่จมตัวเองอยู่กับความทุกข์นี่สิ ยองเบคิดในใจว่ามันช่างเป็นเรื่องงี่เง่าสิ้นดี แต่จะทำอย่างไรได้ ก็คนที่ทำตัวงี่เง่านั้นมันเป็นเพื่อนเค้าเอง



‘คุณเป็นเพื่อนกับคนไข้ใช่มั้ยครับ’

‘ครับ ผมเป็นเพื่อนกับจียง รวมทั้งซึงริด้วยครับ’

‘อ่า ดีเลยครับ งั้นหมอขอเชิญคุณทางนี้หน่อย ’

‘ได้ครับ’

‘คือ ผมมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีต้องการจะบอกให้คุณทราบ ก่อนอื่นหมอขอให้คุณทำใจไว้ด้วยนะครับ’

‘ครับ’

‘เรื่องดีก่อนละกันนะครับ โชคดีมากที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ บวกกับอากาศเย็นจัดที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็ว คุณจียงพ้นขีดอันตรายอย่างน่าเหลือเชื่อครับ’

‘อย่างนั้นหรอครับหมอ เฮ้ออ ค่อบยังโล่งใจไปหน่อยนะครับ แล้วซึงริล่ะครับหมอ เค้าปลอดภัยเหมือนกันใช่มั้ยครับ’

‘อ่า คือ....’

‘ใช่....ใช่มั้ยครับหมอ’

‘นี่แหละครับคุณ เรื่องไม่ดีที่ผมหมายถึง คุณอีซึงริเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลเสียอีกครับ ทางเราพบว่า กระสุนถูกจุดที่สำคัญ นั่นก็คือเส้นประสาทหลักของร่างกาย อวัยวะทุกอย่างหยุดทำงานทันทีตั้งแต่คนไข้ถูกยิงครับ หมอพยายามอย่างเต็มที่แล้ว .....หมอเสียใจด้วยนะครับ’

‘ตลกน่ะครับ!’

‘ไม่จริงใช่มั้ย...หมอ !’

‘หมอโกหกผมใช่มั้ย หมอล้อเล่นใช่รึเปล่า’

‘ขอโทษนะครับคุณดงยองเบ หมอขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ’


..... ฉันรู้และเข้าใจดีว่ามันเจ็บปวด จียง แต่อย่างน้อยนายก็ไม่ควนจะเก็บความเจ็บปวดทั้งหมดไว้กับตัวเองแบบนี้ ถ้าเชือกมันตึงเกิน ก็ผ่อนมันให้คลายลงบ้างก็ได้........

“วันนี้อยากไปไหนปะจียง ฉันจะพาไป”
ในฐานะเพื่อนรัก ฉันก็คงช่วยนายได้แค่นี้ล่ะมั้งจียง ยองเบมองเพื่อนตรงหน้าด้วยหลายความรู้สึก

“ ไม่อ่ะ ”

“ ฉันพาไปที่นึงเอามั้ย ”

“ ยองเบ..... ”

“ อยากไปรึป่าว ”

“ ฉันอยากไปหาซึงริ ”

“ เดี๋ยวชั้นไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนละกัน วันนี้เราจะไปทะเลกัน ”
ยองเบลุกออกจากโต๊ะอาหารทันทีเมื่อพูดจบ อาจจะดูเหมือนว่าเค้าทำร้ายเพื่อเค้าเอง แต่มันก็เป็นวิธีที่จะทำให้เพื่อนของเค้าลืมความทุกข์เหล่านั้นได้ไม่ใช่หรอ

“ ยองเบ ”
เสียงอ่อนของคนที่นั่งจมทุกข์อยู่ที่โต๊ะอาหารเรียกรั้งเค้าไว้ ยองเบหยุดเดินต่อ แต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมอง

“ ไปทะเลกับฉันนะจียง ”

“ พาฉันไปหาซึงริเถอะ.... ”


######################################


เสียงใบไม้ลู่ลมดังขึ้นเป็นจังหวะ ชายรูปร่างดีในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงส์ยีนส์สีซีด ผมสีบรอนซ์ที่ปลิวไปตามลม เผยให้เห็นถึงความอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้อย่างเด่นชัด จียงยืนมองป้ายหินที่สลักชื่อคนรักอย่างอาลัย เจ้าของเส้นผมนุ่มยกมือขึ้นปัดไรผมที่บังหน้าตัวเองออก ก่อนจะนั่งลงวางดอกไม้หน้าป้ายชื่อหินนั่น


“ อีซึงริ ”

น้ำตาหยดโตหยดลงบนตัก ดงยองเบที่ยืนอยู่ไม่ไกล เอี้ยวหลังหันมามองจียงที่เอาแต่นั่งก้มหน้า พลางคิดในใจว่า สิ่งที่เพื่อนเป็นอยู่ ก็คงไม่พ้นการร้องไห้แน่ๆ

สายลมยังคงพัดเอาความเย็นมาปะทะใบหน้าจียงเป็นระยะ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยพัดพาเอาความทุกข์ออกไปจากเค้าได้เลย ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ความเสียใจก็ดูเหมือนจะมีมากขึ้นเท่านั้น

‘ซึงริดีใจจัง ในที่สุด ซึงริก็ได้อยู่กับพี่จียง’

‘สัญญานะฮะ ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป’

“สัญญาสิ เราสองคนจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป........”

ภาพรอยยิ้มสดใสของซึงริไม่ว่าจะนานแค่ไหน มันก็ยังคงแจ่มชัดในมโนภาพของจียง ไม่รู้ว่าจะโทษใครดี จะโทษที่ตัวเค้าเองเกิดมาโชคไม่ดีพอ โชคชะตากำหนดให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือจะโทษพระเจ้าที่เอาความตายมาพรากให้ซึงริจากเค้าไป


ไม่สิ............ไม่ใช่


ถ้าจะโทษ.......คงต้องโทษ


ไอ้สัตว์นรกนั่น............
ผู้ชายอำมหิตที่พรากความสุขทั้งหมดไปจากชีวิตเค้า........

มือหนาที่วางอยู่กับพื้นหญ้า จิกเอาหญ้าขึ้นมากำในมือแน่น ครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่ควอนจียงต้องมานั่งแค้นใจขนาดนี้ หลังจากที่ซึงริจากไป

“บางที นี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้นะซึงริ เห็นทีพี่คงจะต้องทำอะไรสักอย่างสักที”

“ ......... ”

“ ซึงริเห็นด้วยใช่มั้ย หืมม หลับให้สบายนะซึงริ สักวัน......พี่สัญญาพี่จะตามไปอยู่กับนาย......พี่สัญญา ”

ควอนจียงลุกขึ้นจากหลุมศพคนรัก ร่างสูงบางโค้งคำนับให้คนที่จากไป ก่อนจะเดินจากออกมาหายองเบที่รออยู่ ควอนจียงหันหน้ากลับไปมองเนินเขาขนาดเล็กอย่างคิดถึง สายตาที่ส่งไปให้ยังคงเปี่ยมไปด้วยความรักที่ยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง จียงสูดลมหายใจลึกเข้าปอด เปลือกตาคู่บางหลับลงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะตัดสินใจ จนสุดท้ายยองเบจึงเดินเข้าไปหาเค้า ก่อนจะวางมือลงบนไหล่จียง

“ ไปกันเถอะจียง ”

“ ยองเบ.... พรุ่งนี้ ฉันจะกลับโซล..... ”



............................TBC

1 comment:

Ma Tory said...

แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าพิษรักแรงหึง?! T^T
น้องตาย! ทำไมอ่า?! ฮืออออออออออออ!

ซึงฮยอนทำไมนายถึงได้เห็นแก่ตัวแบบนี้?!
ความรักไม่ใช่การครอบครองนะ! ความรักทีแท้จริงไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย?!

จียง..ฉันเสียใจด้วยนะ แต่ไอ้คำพูดที่ว่าจะไปอยู่กับน้องนี่หมายความว่ายังไงกันแน่?! นายคิดจะทำอะไรฮะจี?!

Post a Comment

 
 
Copyright © {{z i m e _ i i}}
Blogger Theme by BloggerThemes Design by Diovo.com